ผมตัดสินใจแล้ว ....

ตั้งแต่ที่พันทิปเปลี่ยนระบบใหม่มา กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม
ปกติแล้วผมจะสถิตอยู่ในห้องเฉลิมไทย ห้องศุภ แล้วก็ห้องสมุดซะเป็นส่วนมาก เป็นบางโอกาสจริงๆถึงจะเข้าห้องราชดำเนิน
แต่พึ่งจะมีแค่ช่วงนี้เท่านั้นที่เข้ามาบ่อยหน่อยเพราะยอมรับว่าเครียดและอยากรู้ข่าวรู้ความเป็นไป รวมถึงอยากรู้ว่าคนในนี้เค้าคิดเห็นกันยังไงบ้างแต่ไม่เคยคิดเลยว่ากระทู้แรกจะเป็นกระทู้เกี่ยวกับการเมือง !!

ผมขอใช้กระทู้นี้ระบายความในใจหน่อยนะครับ อาจจะยาวไปสักนิดถ้าท่านใดไม่มีเวลาหรือไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆก็กดกากบาททิ้งไปได้เลย แต่ผมขอยืนยันว่าสิ่งที่ผมเขียนเป็นความจริงและเป็นความรู้สึกนึกคิดของผมจริงๆทั้งหมด

ผมเป็นคนชั้นกลางครับ บ้านอยู่ในกรุงเทพกลางเมืองเลย ตั้งแต่เล็กจนโตผมขยันเรียนมาก และก็เรียนเก่งมาโดยตลอด เกรดเฉลี่ยต่ำสุดในชีวิตน่าจะไม่ต่ำกว่า 3.6 เท่าที่ผมจำความได้ พอเข้ามัธยม และ มหาลัยผมก็ได้เข้าไปเรียนในสถาบันการศึกษาที่หลายๆคนคิดว่าน่าจะเป็นที่ๆเก่งที่สุดของประเทศ บางคนอาจจะหาว่าผมขี้คุย หรือหมั่นไส้ แต่เปล่าเลยครับ ผมต้องเท้าความก่อนเพราะสิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อเรื่องที่ผมกำลังตัดสินใจต่อไป

แต่ก่อนตอนเด็กๆช่วงประมาณ มัธยม ผมแทบไม่ค่อยสนใจการเมืองเลย คือมองว่ามันเป็นเรื่องสกปรกน่ารังเกียจ น่าเบื่อ มีผู้ใหญ่ที่พูดจาสกปรกคุยกันในห้องใหญ่ๆที่เรียกว่าสภา แล้วผมก็ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ผมหรือญาติผู้ใหญ่ทนดูคนพวกนี้ผ่านหน้าจอทีวีเป็นชั่วโมงชั่วโมงได้ยังไง

ตอนผมอยู่มัธยมช่วงนั้นเป็นช่วงสมัยคุณทักษิณเป็นนายก ยอมรับนะครับว่าตอนแรก แม้จะไม่ใส่ใจการเมืองมาก แต่ก็อดชื่นชมอยู่ลึกๆไม่ได้ว่า เออ คนนี้เก่งดี เป็นคนมีแนวคิดและไอเดียเยอะแยะ และบางเรื่องที่ผมว่ามันโอเคมากๆ อย่างพวกโครงการต่างๆและการจัดการปัญหาทสึนามิ ที่ต้องยอมรับว่าแกมี power และเป็นคนรวดเร็วจริงๆ แต่ความชื่นชมต่อตัวนายกคนนี้เริ่มหมดไปสำหรับผมภายหลังจากที่มีกระแสข่าวเรื่องนายกไม่เสียภาษีจากการขายหุ้น หรือ กรณีที่มีข่าวนายกพาดพิงเบื้องสูง (อย่างทีทุกท่านทราบกันดี ซึ่งผมจะไม่ขอกล่าวรายละเอียดในที่นี้นะครับ) รวมถึง ประเด็นที่อาจารย์ที่สอนผมหลายๆคนได้กล่าวถึงข้อเสียของนโยบายประชานิยม

หลังจากนั้นไม่นานนะครับ ผมเริ่มเกลียด ยอมรับเลยครับ ไม่ชอบนายกคนนี้เอามากๆ ตอนที่มีม๊อปประท้วงสมัยนู้นผมก็สนับสนุน คือตอนนั้นมันมีหลายเรื่องจริงๆ แต่ผมก็ยังแอบสงสัยนะครับว่าทำไมพ่อผมคนที่ผมเคารพในความคิดเค้ามากๆ ทำไมถึงได้ยังสนับสนุนนายกคนนี้ วันนึงผมก็ไปว่าพ่อว่า "ป๊าชอบไปได้ยังไงเนี่ยคนแบบนี้ นโยบายอะไรของเค้าก็ไม่เป็นธรรมกับคนชั้นกลางแบบพวกเรา ลองคิดดูสิเราเสียภาษีตั้งเยอะ เอาเงินไปให้คนชั้นล่างหมด ไม่แปลกเลยพวกมันก็เลยชอบไง" (ตอนนั้นยอมรับว่าพูดแบบนั้นจริงครับ) แล้วทีนี้พ่อผมก็เลยบอกผมว่า "อ่าว ก็พวกเค้าเป็นคนที่มีโอกาสทางสังคมน้อยที่สุด ถ้าคนปกครองประเทศไม่ช่วยไม่คำนึงถึงคนเหล่านี้ แล้วเค้าจะต้องไปช่วยใคร คนรวยเหรอ หรือว่าพวกเรา ? แล้วถ้าจะพัฒนาประเทศให้เจริญถ้าไม่ช่วยคนพวกนี้ที่เป็นคนจำนวนมากที่เป็นฐานของประเทศ แล้วประเทศไทยจะเจริญได้ยังไง ? แล้วอีกอย่างลูกลองคิดถึงคน ตจว ที่ไม่มีเงิน แต่พ่อแม่เค้าได้รับการรักษา บางคนเป็นต้อ ถ้าไม่ผ่าตาจะตาบอด แล้วเพราะโครงการนายกทำให้เค้าตาไม่บอก ถ้าลูกเป็นของลูกของเค้า ลูกจะรักนายกคนนี้มั้ย ? "  พอได้ฟังก็อึ้งๆไป แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนแนวคิดนะครับ แต่ก็ยอมรับว่าเริ่มเอนเอียงจากที่เกลียดมากๆ มาเป็นไม่ค่อยชอบก็แล้วกัน

แต่หลังจากนั้น พอเริ่มมีปฏิวัติ มีนายกคนใหม่ จนกระทั่งเกิดเหตุมากมายตามมา ทั้งที่คุณสมัครพ้นจากตำแหน่งนายก เพราะเหตุผลอะไรทุกท่านน่าจะทราบๆกันดี จนกระทั่งคุณอภิสิทธิ์ เป็นนายก ตอนนั้นยอมรับเลยนะครับว่าผมเริ่มสนใจการเมืองขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะเรียนคณะด้านสังคมศาสตร์ด้วย ผมเริ่มเห็นความไม่เป็นธรรมมากๆ ชนิดที่ทำให้คนเคยไม่ชอบคุณทักษิณแบบผมต้องเบือนหน้าหนี เพราะต้องยอมรับว่าบ่างอย่างมันน่าเกลียดมากจริงๆ แล้วยิ่งพอวันที่มีการสลายการชุมนุมนะครับ ผมจำได้เลย ผมอยู่ในห้องกับพ่อ ดูทีวีถ่ายทอดสดกันอยู่ แล้วพอมีข่าวว่ามีการยิงกันตาย มีคนตายเยอะแยะ ผมก็หันไปมอง แล้วก็เห็นพ่อของผมร้องไห้ ผมก็ตกใจแต่ก็ได้แต่ปลอบแกว่า "ไม่เป็นไรนะป๊า อย่างน้อยบ้านเราก็ยังมีกัน ไม่มีใครเป็นอะไรเนาะ อย่าเสียใจนะ" แต่ถ้าถามผมในใจตอนนั้นลึกๆ เสียใจมากนะครับ แล้วก็แค้นใจแทนคนที่เค้ามาร่วมชุมนุมว่า เค้าแค่มาขอให้มีการเลือกตั้ง ทำไมต้องฆ่ากันให้ตายต้องทำกันขนาดนี้ด้วย

แต่ก็นั่นแหละครับ ตอนนั้นผมยังเรียนไม่จบ และผมคิดว่ายังมีอะไรที่มากมายกว่านั้นในชีวิตผมมากกว่าที่ผมจะต้องไปเสียใจกับเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเรา สุดท้ายผมก็ตั้งใจเรียน เหมือนเดิม และ ขยันมากๆจนจบได้เกรดที่สูง เป็นอันดับต้นๆของคณะ เพราะผมฝันมาตลอดว่าวันนึงผมต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ และต้องเป็นคนที่คนอื่นเคารพนับหน้าถือตาให้ได้ และพอผมจบแล้วก็เริ่มทำงาน ก่อนที่จะวางแผนไปเรียนต่อต่อไปในอนาคต

ขอตัดมาที่เรื่องการเมืองก่อนนะครับ หลังจากเหตุการณ์นั้นก็เป็นการเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุด ซึ่งก็แน่นอนนะครับว่า ผมได้เลือกเบอร์ 1 ให้เข้ามาเป็นนายก เพราะผมรับไม่ได้กับความไม่เป็นธรรมในสังคม กับความใจร้ายของคนที่มีอำนาจในประเทศนี้ รวมถึง ความไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานของนายกคนก่อนหน้านี้ สุดท้าย พอ บวก ลบ คูณ หาร แล้ว ก็เลยเลือกคุณยิ่งลักษณ์ เป็นนายก

ตอนแรกๆผมก็เริ่มมีความหวังกับประเทศมากขึ้นนะครับ เพราะ2 ปีท่าผ่านมา คุณปู (ขอเรียกชื่อเล่นนะครับ) แม้จะมีเรื่องติดขัดในการบริหารงาน บางอย่างบางนโยบายที่ผมไม่ชอบ อย่างรถคันแรก แต่ก็ดูเหมือนจะได้รับโอกาสให้ทำงานต่อไปได้ แต่ทีนี้ พอมาถึงเรื่องราวในตอนนี้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผมไม่ทราบนะครับว่าตอนจบของเรื่องจะเป็นยังไง แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ ด้วยหัวสมองที่พอจะมีผมพอจะมองออกว่าม๊อบนี้ต้องมีคนที่มีอำนาจหนุนอยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นมีเหรอที่โดนหมายจับจากศาลแล้ว แต่รัฐบาลยังทำอะไรม่ได้แม้ซักแอะ หรือจากการที่สหรัฐส่งทูตและนายพลเข้าพบก็พอจะทำให้ผมมองอะไรในเบื้องลึกได้ (แม้จะไม่รู้ทั้งหมดก็ตาม)

ทีนี้สิ่งที่ผมอยากจะบอกนะครับ กับทุกๆคน รวมถึงคนที่มีอำนาจในประเทศนี้ (รับรองว่ากลั่นออกมาจากใจ)

ผมเลือกนายกคนนี้มากับมือ
มีคนอีกมากมายที่เลือกนายกคนนี้มา มีหมดแหละ ทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่
นายกคนนี้ทำอะไรผิดเหรอครับ นายกคนนี้ไปฆ่ำใครเหรอครับ หรือไปทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจทำไมต้องพยายามกำจัดเธอขนาดนี้ด้วย ?
แล้วคนที่เลือกเธอมา คุณไม่สนใจเค้าเลยเหรอครับ คุณไม่ได้มองเค้าเป็นมนุษย์คนนึงที่มีสิทธิ์มีเสียง ในฐานนะคนไทยในแผ่นดินเดียวกับคุณเลยเหรอ ?

ซึ่งภายหลังจากการคิดวิเคราะห์ของผมแล้วนะครับ ผมก็ได้คำตอบ คนที่มีอำนาจในประเทศนี้ไม่สนใจหรอก ไม่ได้มองคนไทยเป็นมนุษย์หรอก
ต่อให้คุณ เป็นหมอ เป็นทหาร เป็นทนาย เป็นตำรวจ เป็นนักธุรกิจ เป็นวิศวกร เป็นชาวนา เป็นช่างทำผม เป็นโสเภณี เป็นนักเรียน หรือ เป็นอะไรก็ตามแต่ ถ้าคุณอยู่ในประเทศนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไร  คุณจะไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ  ร่วมกำหนดหรือเลือกอนาคตของประเทศนี้ที่คุณเสียภาษีอยู่ทุกวันอย่างแน่นอน

ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผมเศร้าใจนะครับ ผมพยายามมากๆในชีวิต สุดท้ายเพื่อได้มารับรู้ว่า ความคิดของเรา การตัดสินใจของเรามันไม่มีค่า และเค้าไม่ได้มองเราเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำ แล้วถ้าอย่างนั้น ถ้าสุดท้ายแล้วเกิดเรื่องอุบาทว์ ไร้ยางอายที่จะทำให้รัฐบาลนี้ต้องออกไปจริงๆ ผมก็ตัดสินใจได้ซะทีว่า แล้วทำไมผมต้องทนอยู่ในประเทศที่คนในประเทศถูกมองว่าไม่ใช่คนด้วยล่ะ ? แล้วใครจะไปรู้ว่าในอนาคตถ้าผมอยากเติบโตในประเทศนี้จริงๆ ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าทุกอย่างวัดกันที่ความสามารถ และตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกเศร้าของพ่อผมแล้ว เพราะผมเริ่มคิดว่าผมคงไม่อยากอยู่ในประเทศที่ถ้าผมมีลูก เด็กคนนี้ ลูกของผม ก็จะถูกมองว่าไม่ใช่คนเหมือนกัน !!

เพราะฉะนั้น ผมก็เลยตัดสินใจได้ซักทีว่าหลังจากผมเรียนต่อแล้วคงจะพยายามหางานทำและก็ตั้งรกรานอยู่ที่นั่นให้ได้ เพราะการอยู่ที่นี่มันบั่นทอนจิตใจ บั่นทอนความรู้สึกของผมเหลือเกิน  

เรื่องที่จะฝากก็มีเท่านี้ครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สุดท้ายสิ่งที่ผมกลัวจะไม่เกิดขึ้น สุดท้ายคนไทยทุกคนจะมีสิทธิ์มีเสียงและสามารถเลือกอะไรตามสิ่งที่เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเราหรือของประเทศเราโดยไม่มีสิ่งใดมาแทรกแซงได้ซักที

หวังจากใจครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่